
นับจากอดีตจวบจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ เกาะเต่า ได้รับอีกหนึ่งฉายา " เกาะรัก หรือ เกาะแห่งรัก " ในหมู่เราชาว เกาะเต่า เรียกกันสั้นๆ ว่า " เกาะรัก " ที่มาของเกาะรักเป็นที่รู้กันอยู่แล้วจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเที่ยว เกาะเต่า กันเป็นคู่ ชาย - หญิง และมักเป็นคู่รักกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบแต่งงานแล้ว หรือแบบกำลังดูใจกัน ซึ่งจะเป็นช่วงของวัยอายุระหว่าง 20 - 35 ปี และช่วงวัยนี้เองเป็นวัยแห่งการค้นหา ชอบเสี่ยง คือเน้นแบบลุยๆ ชนิดถึงไหนถึงกัน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทยมีความชอบไม่ต่างกันมากนัก เพียงแต่นักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นลุยน้อยกว่า ดังนั้น ดินแดนเกาะรัก เรียกได้ว่า สมใจ สุขสดชื่นสมปรารถนากับความรักเกือบทุกคู่กันเลยทีเดียว คงเป็นผลมาจากความกันดาน และความลำบากของที่นี่ ก่อเกิดกิจกรรมต่างๆ มากมาย ระหว่างเขากับเธอ เสมือนหนึ่งอุบัติเหตุรัก อันได้แก่ กิจกรรมการเดินเท้าย่ำรักไปด้วยกันบนเส้นทางโหด มันส์ ฮา หลากหลายรูปแบบให้ทั้งคู่ได้อุบัติรักต่อกันท่ามกลางร่มไม้ใหญ่ เขียวขจีหนาตาไปทั่วบริเวณ และอีกกิจกรรมหนึ่งที่ไม่ควรพลาดนั่นคือกิจกรรมดำน้ำ Scuba หรือดำน้ำแบบสน็อกเกิ้ลลิ่งเหนือผิวน้ำ มีความสุขมากเพียงใดที่ได้พบเห็นฝูงปลานานาพันธุ์นั้นอย่างประทับใจ ในดินแดน " เกาะเต่า จุดดำน้ำยอดฮิต ติดอันดับหนึ่งของโลก " เชื่อว่าคนแรกที่เขาอยากจะให้ได้เห็น ได้พบเจอสุดยอดสัมผัสใหม่ใต้โลกทะเล เกาะเต่า ก็คือหวานใจนั่นเอง ซึ่งก็ดำน้ำเคียงคู่อยู่ใกล้ๆ กัน ถึงแม้จะคุยกันในน้ำด้วยเสียงอู้อี้ๆ ด้วยอาการตื่นเต้น ก็ยังเข้าใจกันได้ในความหมายแห่งรักที่มีต่อกันได้ไม่ยาก.
จุดชมวิว " จอห์น - สุวรรณ " ตำนานรักสาวประเภทสองของไทย ระบือไกลไปทั่วโลก
จุดชมวิวถัดไปทางใต้ของ เกาะเต่า หากไป เกาะเต่า แล้วไม่ได้มาเยือนจุดชมวิวนี้ ถือว่า " มาไม่ถึง เกาะเต่า " อยากให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้มาสัมผัสและสูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์ไปพร้อมๆ กัน กับอีกหลากหลายวิวรอบตัวกันเลยทีเดียว ณ จุดชมวิว "จอห์น-สุวรรณ" นี้สามารถมองเห็น เกาะเต่า ในมุมกว้างได้มากที่สุดกว่าจุดชมวิวที่อื่นๆ บน เกาะเต่า และมองเห็นเกาะฉลาม , อ่าวเทียนออกแลเห็นโค้งทรายตัดทะเลสีคราม และท่อนน้ำตื้นสีเขียวมรกตแบบไชน์ส่องแสงงดงามยิ่ง , ทึ่งอ่าวโฉลกบ้านเก่า ณ จุดชมวิวนี้สามารถแลเห็นทรายใต้น้ำทะเลของอ่าวโฉลกบ้านเก่าได้อย่างน่าอัศจรรย์เป็นที่สุด อันแสดงถึงน้ำทะเล เกาะเต่า ยังคงครองแชมป์ความเป็นหนึ่งน้ำทะเลใสตลอดทั้งปีที่สุด ในโซนแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอ่าวไทย เพราะ เกาะเต่า คือยอดของอดีตภูเขามาก่อนนั่นเอง ณ จุดชมวิวนี้เองที่ทำให้นักท่องเที่ยวร่วมสร้างความประทับใจมาแล้วทั่วโลก. ที่มาของชื่อจุดชมวิว " จอห์น-สุวรรณ " เล่าว่า เดิมแต่ก่อนปี พ.ศ. 2540 มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปชื่อ " มิสเตอร์ จอห์น " ได้มาเที่ยว เกาะเต่า และพบรักกับสาวประเภทสองชาวไทยชื่อ "สุวรรณ" ทั้งคู่ใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนคู่รักทั่วไป และเลือกจุดชมวิวนี้เป็นที่นัดพบกันเสมอ อีกทั้งเขาทั้งคู่ยังเป็นผู้ค้นพบจุดชมวิวนี้ด้วย. ครั้นเมื่อมิสเตอร์จอห์น ได้เวลากลับประเทศของตน จึงให้คำมั่นกับคุณสุวรรณ ว่า.... เราจะกลับมาเจอกัน ณ จุดชมวิวนี้ด้วยกันอีกครั้ง เมื่อถึงวันนัดพบตามที่นัดกันไว้ ปรากฏว่า " จอห์น " ไม่ได้มาพบ " สุวรรณ " ตามนัด. ถึงกระนั้น " สุวรรณ " ยังคอยและมีความหวังอยู่เสมอถึง " จอห์น " สักวันเขาคงกลับมา. ใครที่ผ่านไปผ่านมาแถบนั้นก็จะพบเห็น " สุวรรณ " เสมอ และเมื่อถามไปก็จะได้รับคำตอบเดิมคือ " มานั่งคอยจอห์น " นั่นเองจึงเป็นที่มาของเรื่องเล่าของชาว เกาะเต่า เรียกจุดชมวิวนี้ว่าจุดชมวิว " จอห์น - สุวรรณ " จนถึงปัจจุบันนี้.
กองหินยักษ์รอบ เกาะเต่า
กองหินขนาดใหญ่มีมากมายรอบ เกาะเต่า ยกเว้นเฉพาะบางช่วงที่เป็นชายหาดเท่านั้น นักท่องเที่ยวหลายท่านได้มาเยือน เกาะเต่า เป็นครั้งแรกแปลกใจกับกองหินรอบ เกาะเต่า เมื่อครั้งล่องเรือรอบเกาะด้วยความสงสัยถึง กองหินเหล่านั้น ต้องมีใครมาจับวาง หรือจัดกองหินเหล่านั้นให้เป็นระเบียบ ในแนวระดับเลียดน้ำทะเลอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นจะเป็นแนวเดียวกัน สวยงามขนาดนี้ได้อย่างไร ทำให้เราทึ่งในความอัศจรรย์สรรสร้าง แห่งพระหัตถ์ธรรมชาติ ที่ทำให้เราเข้าใจไปเป็นอื่นได้ กองหินหลายก้อนตั้งซ้อน เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ และมีขนาดใหญ่มาก รถสิบล้อหลายคันรวมกัน ยังไม่เท่ากับหินก้อนใหญ่บางก้อน ไฉนเลยเครื่องมือใดในโลก จะขยันยกก้อนหินเหล่านั้นรอบทั้ง เกาะเต่า ได้ละเมียดละไมอย่างลงตัวดีแท้ ขอเชิญนักท่องเที่ยวร่วมพิสูจน์ความมหัศจรรย์สรรสร้างกองหินยักษ์ จากธรรมชาติตัดกับสีน้ำทะเลเรืองใส ไปพร้อมกัน ณ บัดนี้
นักท่องเที่ยวหลายท่านที่เคยดำน้ำระดับผิวน้ำทะเล หรือที่เรียกกันฮิตติดปาก "สน็อกเกิ้ล" มาแล้วนั้น ได้ยลโฉมกับความสวยงาม ของโลกใต้ทะเล เกาะเต่า เกาะนางยวน และเชื่อว่าหลายท่านอยากนำธรรมชาติใต้น้ำนั้นมาสรรค์สร้าง จัดแต่งในแบบฉบับจินตนาการภายในตู้ปลาของตนไม่น้อยทีเดียว.จากความสวยงามที่ตอบสนองต่อความพึงพอใจ ในผลงานตู้ปลาเพียงไม่กี่วัน พลันทำให้สัตว์น้ำทะเล และพืชจำพวกสาหร่ายที่ตั้งใจนำมาเลี้ยง หรือนำมาจัดโชว์ในตู้ปลานั้น ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าสงสารในช่วงแห่งความสุขช่วงสั้นๆ ของท่าน อาทิ หอยมือเสือ , เม่นทะเล , สาหร่าย , ปะการัง และสัตว์น้ำทะเลอื่นๆหากไม่มีความรู้เรื่องระบบนิเวศน์แวดล้อมทางทะเลที่ดีแล้ว เมื่อนำสัตว์น้ำไปเลี้ยงในตู้ปลาเพื่อความสวยงาม เชื่อเอาว่าแค่เปลี่ยนน้ำทะเลบ่อยๆ แล้ว ก็จะทำให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นไม่ตายได้ ซึ่งน่าจะเป็นแนวความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่เป็นสาเหตุต้องทำให้สัตว์น้ำทะเลทนกับสภาพแวดล้อมที่ถูกรบกวนด้วยการเปลี่ยนน้ำบ่อยครั้ง และไม่คุ้นกับอาหารที่ได้รับ คือ ผิดไปจากธรรมชาติเดิม ทำให้ต้องจบชีวิตลงในระยะเวลาอันสั้น และมีอีกหลายชนิดที่ต้องตายในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมง หรือมีชีวิตอยู่เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้นอย่างไรเสีย ความสวยงามของโลกใต้ทะเล เกาะเต่า เกาะนางยวน ที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นมาให้เรานั้น งดงามที่สุดมากกว่าที่ใดๆ ในโลกอีกหลายแห่ง อาทิ แหล่งท่องเที่ยวหลายที่ต้องการถอดแบบธรรมชาติโลกใต้ทะเลไปสู่สังคมเมือง โดยเลียนแบบธรรมชาติให้เหมือนของจริงมากที่สุด โดยเอาชีวิตของสัตว์น้ำของจริงเหมือนกันเป็นเดิมพัน มีตั้งแต่ตู้ปลาขนาดเล็ก ไปจนถึงระดับใหญ่โต Under Water กันเลยทีเดียว แต่เบื้องหลังใครเล่าจะรู้ได้บ้างถึงสิ่งมีชีวิตใต้น้ำเหล่านั้นระทมเพียงใด หรือผลัดกันตายมาแล้วกี่รุ่นดูเอาเถิดธรรมชาติของจริงใต้น้ำทะเล เกาะเต่า เกาะนางยวน ชวนให้หลงไหลกว่าของเลียนแบบเป็นไหนๆ ไกลลิบ ยากที่มนุษย์จะทำได้เหมือน อาทิ ฝูงฉลามวาฬมหึมา ฝูงปลามโหฬารสูงเทียมตึก ทำให้หลายท่านตื่นเต้นไม่เหือดหายไปจากความทรงจำ ขอเชิญชวนมาดู มาเที่ยว มาสัมผัสของจริงได้แล้ววันนี้ที่ เกาะเต่า เกาะนางยวน.
ศาลเจ้าพ่อ "ตาโต๊ะ" เกาะเต่า
ศาลเจ้าพ่อ "ตาโต๊ะ" ตั้งอยู่บนเนินเส้นทางไป ตาโต๊ะ รีสอร์ท เป็นที่สักการะ และเคารพนับถือของชาว เกาะเต่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเรื่อยมา และขอไม่เอ่ยถึงที่มาของศาลเจ้าพ่อ เพราะเกรงมีผลกระทบต่อจิตใจพี่น้องชาว เกาะเต่า หลายท่านที่มีต่อเจ้าพ่อ "ตาโต๊ะ". ณ ที่แห่งใดในโลกนี้ ล้วนมีเจ้าที่ผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยแห่งนั้นเสมอ เกาะเต่า ก็เช่นกัน เชื่อว่า เจ้าพ่อ "ตาโต๊ะ" ให้ความคุ้มครองผู้คนบน เกาะเต่า รวมทั้งนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือนเกาะแน่นอน โดยเฉพาะผู้มากราบไหว้ขอพรจากเจ้าพ่อโดยตรง ที่สมหวังก็จะมาแก้บนโดยการจุดประทัด และนำอาหาร คาว หวาน มาถวาย. แนะวิธีขอพรจากเจ้าพ่อ "ตาโต๊ะ" 1) จุดธูป 7 หรือ 9 ดอก ตั้งจิตอธิษฐานขอพร ณ ศาลเจ้าพ่อ "ตาโต๊ะ" , 2) หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็นแล้ว ให้จุดธูป 7 หรือ 9 ดอก ตั้งจิตอธิษฐานขอพร ณ สถานที่ใดก็ได้บน เกาะเต่า แต่ต้องให้เป็นสถานที่ๆ เงียบสงบ และไม่มีผู้คนเดินพลุกพล่าน แล้วปักธูปลงพื้นดินตรงนั้น และเดินถอยหลัง 7 ก้าว กลับหลังหันเดินจากไป โดยไม่ต้องหันกลับมามองธูปนั้นอีก , 3) เมื่อสมปรารถนาจากการขอพรจาก "เจ้าพ่อตาโต๊ะ" ให้รีบกลับมาแก้บนในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน นับจากวันที่ได้พรสมปรารถนา และการขอพรแต่ละครั้งขอให้มั่นใจได้ว่า ท่านจะสามารถกลับมาแก้บนได้แน่นอนด้วย. มิเช่นนั้น......