ระทึก 5 นักดำน้ำ เกาะเต่า เรืออับปางลอยคอกลางอ่าวไทยเกือบ 20 ชั่วโมง

ครูสอนดำน้ำพาคณะนักท่องเที่ยว 4 คน ดำน้ำลึกหน้า เกาะเต่า เกิดเครื่องยนต์เรือขัดข้อง ถูกคลื่นซัดจนเรืออับปางต้องลอยคอรอการช่วยเหลือกลางทะเลเกือบ 20 ชั่วโมง สุดท้ายหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย

เหตุการณ์ระทึกกลางอ่าวไทยบริเวณน่านน้ำ จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ส.ค. 2547 โดยมีรายงานว่า นายองอาจ พึ่งเป็นสุข อายุ 32 ปี ครูสอนดำน้ำ ได้นำเรือสปีดโบท หรือเรือเร็ว ซึ่งเป็นเรือสำหรับพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำ ของบริษัท คริฟตัน ไดรวิ่ง จำกัด อ.เกาะสมุย พานักท่องเที่ยวจำนวน 4 คน ซึ่งเป็นทหาร 2 คนและตำรวจ 2 คน ไปดำน้ำที่บริเวณ เกาะเต่า ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ของวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา

แต่ระหว่างที่ลอยเรืออยู่บริเวณดังกล่าวไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เครื่องยนต์เรือได้เกิดขัดข้อง ขณะเดียวกันมีคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำ แต่คนในเรือไม่สามารถบังคับเรือโต้คลื่นได้เนื่องจากเครื่องยนต์ดับ ทำให้เรือขวางคลื่นส่งผลทำให้น้ำไหลเข้าท่วมเรือจนจมไม่สามารถเดินทางกลับเข้าฝั่งได้ ทั้ง 5 คน จึงต้องลอยคออยู่กลางทะเลตลอดทั้งคืน ทางบริษัทฯ จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังเรือที่อยู่ใกล้เคียง และเรือตำรวจน้ำ กองกำกับการตำรวจน้ำเกาะสมุย เพื่อนำเรือออกช่วยเหลือ

จนกระทั่งเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 14 ส.ค. 2547 เรือของบริษัทฯ ได้ออกค้นหาในพิกัดที่ใกล้เคียงกับบริเวณจุดดำน้ำ และสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารขึ้นมาบนฝั่งได้อย่างปลอดภัยทุกคน โดยทุกคนไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

นายวัชรินทร์ ฟ้าศิริพร กรรมการผู้จัดการ บริษัทคริฟตัน ไดรวิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า เรือดังกล่าวเป็นเรือเล็กที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้สำหรับไปดำน้ำที่ เกาะเต่า เป็นประจำ และทุกครั้งเรือได้ผ่านการตรวจสภาพเป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่เดินทางไปครั้งนี้มีจำนวน 5 คน ทั้งหมดเป็นเพื่อนสนิทของตน มีความเชี่ยวชาญเรื่องการดำน้ำ และมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องทางทะเลพอสมควร เพราะผ่านหลักสูตรดำน้ำทุกคน โดยในเรือมีอุปกรณ์สำหรับการดำน้ำและเครื่องมือสื่อสารครบถ้วน จึงติดต่อขอความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า หลังจากที่ทางบริษัทได้รับการติดต่อเข้ามาว่าเรือประสบอุบัติเหตุ จึงได้ระดมกำลังออกช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 13 ส.ค. แต่เนื่องจากมีคลื่นลมแรงการช่วยเหลือจึงเป็นอย่างล่าช้า
ด้านนายองอาจ เล่านาทีระทึกว่า หลังจากที่ทราบว่าเรือประสบอุบัติเหตุเครื่องยนต์ขัดข้อง มีน้ำไหลเข้าท่วมเรือ ประกอบกับถูกคลื่นซัดออกนอกพิกัดจากจุดที่ดำน้ำ จึงพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือได้เป็นบางช่วง หลังจากนั้นแบตเตอรี่วิทยุถูกน้ำจนเปียกไม่สามารถติดต่อได้ จึงลอยคออยู่ในทะเลเป็นเวลา 1 คืน แต่ทุกคนมีสติดี

"ทุกคนมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนแต่ยังมีสติดีอยู่ จุงไม่มีใครพูดให้ใครเสียกำลังใจ ประกอบกับสภาพร่างกายทุกคนมีความความพร้อมเพราะผ่านการฝึกฝนมาพอสมควร ทั้งยังมีเครื่องชูชีพและอุปกรณ์ดำน้ำพร้อม จึงทำตามขั้นตอนทุกอย่างของการเรียน และมั่นใจว่าต้องปลอดภัยทุกคน" นายองอาจ กล่าว