let sea ! ที่นี่ เกาะเต่า

เกด-ริน...เรื่อง

ในอดีต คงไม่มีใครคิดว่าพื้นที่รกร้างห่างไกลสุดกันดารสถานกักกันนักโทษการเมืองอย่าง เกาะเต่า ในวันหนึ่งจะกลายเป็นเป้าหมายปลายทางหนึ่งของนักดำน้ำทั่วโลก !
เช่นเดียวกับที่คงไม่มีใครมานั่งจำว่า เกาะเล็กๆ อย่าง เกาะเต่า ที่มีสถานะเป็นเพียงตำบลหนึ่งของเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันแม้ว่าจะมีประชากรเบาบางไม่ถึง 1,000 คน แต่กลับหนาแน่นด้วยโรงเรียนสอนดำน้ำลึก (scuba) มากกว่า 40 แห่ง !
.....
6 ชั่วโมงบนรถโค้ชที่มีเม็ดฝนไล่หลังเหมือนตามมาส่งตั้งแต่กรุงเทพฯ จนกระทั่งถึงท่าเรือชุมพร ลงล่องเรืออีกชั่วโมงกว่าๆ มุ่งสู่ เกาะเต่า ตลอดเวลาฟากฟ้าก็ยังคงบรรจงพรมฝนลงมาเป็นระยะๆ ซึ่งแม้ว่าอากาศจะเริ่มชื้นเย็นแต่ก็ไม่มากพอที่จะดับใจร้อนๆ ที่อยากจะลองดำน้ำลึกเป็นครั้งแรกในชีวิต
ความรู้สึกคงไม่ต่างจากน้องๆ อีก 30 คนใน โครงการสัมผัสชีวิตใต้ท้องทะเลไทยรุ่นที่ 5 ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ปตท.สผ. และ ททท.ให้มาร่วมเรียนรู้การ ดำน้ำลึกแบบสกูบาตามมาตรฐาน PADI เพื่อศึกษาระบบนิเวศใต้น้ำที่เกาะเต่าแห่งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ใจดีจากมูลนิธิเพื่อทะเลมาเป็นครูฝึกให้
เปิดซิงจุดดำน้ำแห่งแรกที่ หินวง ระดับความลึกกว่า 10 เมตร อาณาจักรปะการังคอยท่าอยู่ พร้อมฝูงปลาหน้าตาแปลกหลากหลายสีสัน ว่ายหยอกเย้าปะการังอย่างน่าเอ็นดู ตามด้วยจุดดำน้ำ อ่าวลึก แต่ถ้าถามถึงจุดไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวนิยมสุดๆ ใครยอมเมื่อยนั่งเรือออกไปอีกประมาณ 45 นาที ก็จะถึงก้อนหินภูเขาใต้น้ำ ว่ากันว่า ยอดอยู่ที่ความลึก 15 เมตร ซึ่งความตื่นตาตื่นใจในบริเวณนั้น ไม่เพียงพบความสมบูรณ์ของปะการังกัลปังหา แต่ยังมีโอกาสทักทายพระเอกแห่งโลกใต้ทะเลอย่างฉลามได้ตลอดทั้งปีด้วย
นี่ยังไม่รวมเสน่ห์ของเกาะเต่าที่มีอ่าว 11 อ่าว แหลม 10 แหลม และที่สำคัญมีแนวปะการังยาวถึง 8 ก.ม. !
แน่นอน กิจกรรมอันเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจึงอยู่ที่การดำน้ำลึก ธุรกิจโรงเรียนดำน้ำเลยพลอยฟ้าพลอยฝนเติบโตไปตามจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นๆ อย่างฉุดไม่อยู่ สำหรับราคาเรียนดำน้ำทั่วไปมี 2 เรตให้เลือก คือแบบได้ใบอนุญาตดำน้ำระดับโอเพ่น (ไม่เกิน 18 เมตร) 4วัน/9,800 บาท และแบบดำน้ำชั่วคราว 2 วัน/2,500 บาท สำหรับบางคนที่ไม่ต้องการใบอนุญาต
กิจกรรมอื่นๆ บนเกาะเต่าสำหรับผู้ที่ดำน้ำลึกไม่เป็น ก็มีให้เลือกทั้งสน็อกเกิล ดำผิวน้ำดูปะการัง หรือจะนั่งเรือชมรอบเกาะก็ได้ โดยมีจุดชมพระอาทิตย์ขี้นที่ หาดทรายแดง ส่วนฝั่งตะวันตก หาดทรายรี เป็นหาดที่ยาวที่สุดมีที่พักมากที่สุด และเป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านแม่หาด แหล่งที่มีที่พักค่อนข้างมากอีกแห่งคือทางตอนใต้ของเกาะหรือที่ชาวบ้านเรียก โฉลกบ้านเก่า เป็นสถานที่ที่มีจุดชมวิวที่สวยที่สุดเรียกว่าจุดชมวิว จอห์นสุวรรณ
ถ้ามาถึงหาดโฉลกบ้านเก่าแล้ว ถัดไปอีกไม่ไกลก็จะเห็น หินตาโต๊ะ หินรูปร่างแปลกคล้ายกับหินตาที่เกาะสมุย
ที่พลาดไม่ได้ อยู่ส่วนท้ายของเกาะเต่า นั่งเรือห่างไป 10-15 นาที มีเกาะเล็กๆ ที่มีหาดทรายเชื่อมต่อระหว่างเกาะสามเกาะเป็นสามเส้า นั่นคือ เกาะนางยวน หมู่บ้านหนึ่งขึ้นกับตำบลเกาะเต่า พอได้เห็นแล้วไม่แปลกใจเลยที่เกาะแห่งนี้มีความงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก !
ภาพหาดทรายสีขาวทอดตัวยาวเลียบผืนทะเลสีเทอร์ควอยส์ ตัดกับฟ้าสีครามในยามแดดอุ่นๆ...สวยจับใจ
ก่อนกลับ สังเกตเป้หลังใบเก่าข้าวของมีเท่าขามา แต่ทว่าหนักกว่าเดิม ไม่รู้ว่าความประทับใจ มันมีน้ำหนักเท่าไร
รู้แต่ว่า ในไม่ช้า เราจะกลับมาเจอกันอีก !
การเดินทาง ง่ายที่สุดซื้อตั๋วลมพระยาจากถนนข้าวสาร 850 บาท (รวมค่ารถจากกรุงเทพฯ+ค่าเรือ) หรือถ้ามาลงเรือที่ชุมพรเลย เรือเร็วลมพระยามี 2 รอบ 7 โมงเช้าและบ่ายโมงตรง เรือซีทรานมีรอบ 7 โมงเช้ารอบเดียว ส่วนเรือนอนก็มีรอบเที่ยงคืนมาถึงเกาะเต่าตอนเช้า ราคา 250 บาท
ที่พัก ถูกสุดตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปโดยเฉพาะบริเวณหาดทรายรี ราคาปานกลางอยู่ที่เรต 1,000-1,500 บาท (พัดลม) และ 2,000-3,000 บาท (แอร์) ระดับหรู ราคาหลักหมื่นก็มีให้เลือกบริเวณอ่าวเทียนออก
เที่ยวใกล้ นอกจากบริเวณโดยรอบเกาะเต่าแล้ว นั่งเรือต่อไปอีกชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง เกาะพะงัน หรือถ้าอยากนั่งต่อไปถึง เกาะสมุย ก็สามารถโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
หน้า 55

ข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ